กลับมาอีกครั้งสำหรับ Yakisugi หรือ Shou Sugi Ban การทำไม้เผาไฟแบบญี่ปุ่น ที่นอกจากจะทำให้ไม้สวยงามมากๆแล้ว ยังเพิ่มคุณสมบัติที่ดีด้านอื่นๆของไม้ด้วยนะ
วันนี้เราจึงจะมานำเสนอถึงความรู้เกี่ยวกับ Yakiksugi กัน ว่าทำไม Yakisugi หรือไม้เผาไฟ ถึงทนไฟ, ทนปลวกทนแมลง, ทนสภาพอากาศ, แถมยังป้องกันการบิดและโก่งงอได้อีกด้วย
มาอ่านเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆที่สนใจนี้กันได้เลยครับ
ทำไมถึงทนไฟ?
เมื่อไม้ถูกเผาด้วยไฟอุณหภูมิสูงในระยะเวลาอันสั้น ผิวหน้าของไม้ซึ่งมีสารประกอบประเภทเส้นใยจำพวก Cellulose จะถูกทำลายและกลายสภาพเป็นผิวที่เหมือนถ่านสีดำ ซึ่งผิวสีดำนี้เคลือบแกนไม้ข้างในไว้ เสมือนเกราะที่สามารถต้านทานการติดไฟได้สูงกว่าเดิมมาก เพราะการที่จะทำให้ไม้ Yakisugi ติดไฟอีกครั้งได้นั้น จะต้องใช้อุณหภูมิที่สูงขึ้น และระยะเวลาการเผาที่นานขึ้น ไม้จึงจะติดไฟได้อีกครั้งนั่นเอง
มีหลายวิธีที่ใช้ในการป้องกันไม้จากปลวก เช่น การอัดน้ำยาลงไปในเนื้อไม้ และการเคลือบน้ำยา แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่เป็นวิธีทางธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีใดๆ และปลอดภัยมากกว่า นั่นคือการเผาไฟ Yakisugi นั่นเอง
การเผาไฟที่ผิวด้านนอกของไม้ จะทำลาย Cellulose ที่ด้านนอก และแปรสภาพมันให้กลายเป็นเหมือนถ่าน ซึ่งอาหารหลักของปลวก และแมลงที่กินเนื้อไม้เป็นอาหาร ก็คือเจ้า Cellulose นี่เอง!
ดังนั้นไม้ที่ผ่านการเผาไฟ จะมีเกราะถ่านที่ป้องกันเนื้อด้านในอยู่ซึงเนื้อด้านในมักจะประกอบไปด้วย Lignin ซึ่งแข็งกว่า Cellulose มาก แถม Lignin ยังไม่ใช่อาหารที่มีคุณค่าเทียบเท่า Cellulose และมีสารอาหารน้อยมากสำหรับปลวกและแมลง จึงทำให้ปลวกและแมลง ไม่สนใจที่จะเจาะเปลือกถ่านเข้าไปกินเนื้อไม้ด้านในยังไงล่ะ
ไม้เผาไฟหรือ Yakisugi ทนสภาพอากาศ ได้มากกว่าไม้ธรรมดา หรือไม้ที่ผ่านการทาสี
เนื่องเพราะสีทาไม้มักจะหลุดลอก และซีดจางเมื่อผ่านสภาพอากาศที่หฤโหด โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีแดดแรงในหน้าร้อน และฝนตกหนักในหน้าฝน จึงทำให้ไม้ที่ทาสี มักจะต้องลงสีซ้ำบ่อยๆ เพื่อให้ไม้กลับมาสวยงามอีกครั้ง
แต่สำหรับไม้เผาไฟนั้น ชนิดที่ปล่อยผิวถ่านด้านนอกไว้โดยไม่ขัด หรือเรียกว่า Black fur มักจะเป็นที่นิยมมากสำหรับการใช้งานภายนอก ผิวนอกที่เป็นสีดำถ่านจะไม่มีวันซีดจางลงอย่างแน่นอน แถมทิ้งไว้เฉยๆก้แทบจะไม่ได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศที่แปรปรวนอีกด้วย โดยการเผาไฟสามารถยืดอายุไม้ได้หลายสิบปี โดยที่ไม่ต้องดูแลรักษาเลย
การเผาไม้ Yakisugi สามารถป้องกันไม้ จากการยืดและหดตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องต้องใช้อุณหภูมิที่สูงในการเผาผิวด้านนอกของไม้ จึงทำให้ความชื้นที่อยู่ในไม้ลดน้อยลง ไม้ที่ผ่านการเผาจะแห้งมากกว่าเมื่อเทียบกับไม้ใหม่ ความชื้นที่น้อยลงที่เองทำให้ไม้ไม่ขยายตัว, หดตัว, หรือเกิดการโก่งงอขึ้นได้ง่ายๆ