การอบแห้งไม้เป็นกระบวนการทำให้ความชื้นหรือน้ำในเนื้อไม้ระเหยออกไป หรือเป็นการทำให้แห้งมากขึ้นนั่นเอง
เนื่องจากไม้ที่พึ่งตัดมาใหม่ๆจะมีความชื้นในเนื้อไม้สูง หากนำไปแปรรูปเลยก็จะทำให้ไม้แปรรูปนั้นๆมีปริมาณความชื้นสูงไปด้วย ไม้แปรรูปที่มีความชื้นสูงจะมีโอกาสยืดหดตัวได้ง่าย และสร้างปัญหาให้กับงานไม้ได้ง่าย เช่น การบิดงอ หรือแตกหัก
แต่ไม่ใช่แค่นี้หรอกนะ การอบแห้งไม้ยังมีประโยชน์อีกมากมาย และเป็นส่วนสำคัญมากๆในการผลิตไม้แปรรูป เพราะอะไร คลิ้กเข้าไปอ่านกันได้เลย
***ไม้สนของเรา SAK WoodWorks ผ่านการอบแห้งด้วยเตาอบ (Kiln drying) ที่ควบคุมอุณหภูมิได้ ด้วยเทคโนโลยีที่ดีกว่าและควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญในการผลิตไม้สนโดยเฉพาะ จึงมั่นใจได้ว่าไม้ทุกชิ้นของเรามีความชื้นที่เท่ากันตลอดทั้งแผ่นไม้ และเหมาะสมกับการนำไปใช้งานได้เลยทันที
1. ทำให้ไม้อยู่ตัวหรือคงรูปมากขึ้น
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของความชื้นในเนื้อไม้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ไม้เกิดการยืดหรือหดตัวของเนื้อไม้ ส่งผลให้ไม้บิดงอหรือแตกหักได้ การลดความชื้นในเนื้อไม้ก่อนที่จะทำการแปรรูปจะช่วยลดปัญหาการยืดและหดตัวของไม้แปรรูปไปได้มาก ไม้แปรรูปที่แห้งแล้วจะเหมาะสมกับการนำไปใช้งานมากขึ้น ทั้งงานก่อสร้าง งานเฟอร์นิเจอร์ หรืองาน DIY ก็ล้วนต้องการไม้ที่อยู่ตัว ไม่บิดงอหรือแตกหักง่ายๆ
2. เนื้อไม้แข็งแรงและเฟิร์มมากขึ้น
เมื่อความชื้นหรือน้ำภายในเนื้อไม้ระเหยออกไป จะทำให้เส้นใยในเนื้อไม้ชิดกันมากกว่าเดิม ทำให้เนื้อไม้มีคุณสมบัติด้านแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้แล้วเนื้อไม้ที่เฟิร์มมากขึ้นจะยึดตะปูได้ดีมากขึ้นอีกด้วยนะ ส่งผลให้รอยต่อต่างๆระหว่างไม้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย
3.ต้านทานแมลง แบคทีเรีย เชื้อรา และมีคุณสมบัติเป็นฉนวนความร้อนและฉนวนไฟฟ้าที่มากขึ้น
แมลง แบคทีเรีย และเชื้อราต่างๆเติบโตได้ยากขึ้นในไม้ที่แห้ง เพราะศัตรูของไม้เหล่านี้ล้วนต้องใช้น้ำในเนื้อไม้ในการเจริญเติบโต
นอกจากนี้ไม้ที่แห้งยังขาดน้ำที่เป็นตัวนำความร้อนและตัวนำไฟฟ้าชั้นดีในเนื้อไม้ ทำให้มีคุณสมบัติเป็นฉนวนความร้อนและฉนวนไฟฟ้าที่มากขึ้น แถมยังเก็บเสียงได้ดีขึ้นอีกด้วยนะ
4. เนื้อไม้จับกับน้ำยาต่างๆได้ดีขึ้น
ไม้แห้งขึ้น ยังส่งผลให้เนื้อไม้ดูดซับน้ำยาต่างๆได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ไม่ว่าจะน้ำยารักษาสภาพไม้ น้ำยากันปลวก สีย้อมไม้ สีทาไม้ ไปจนถึงกาวสำหรับงาน DIY ก็ติดได้แน่นขึ้นอีกด้วย
5. น้ำหนักเบาขึ้น
ไม้มีน้ำหนักที่เบาขึ้นจากการสูญเสียน้ำภายในเนื้อไม้ ส่งผลดีหลายอย่าง เช่น การขนส่งที่มีน้ำหนักเบาขึ้น ไปจนถึงการบริหารจัดการไม้ที่ง่ายกว่าเดิม จะยก จะย้าย จะติดตั้งตรงไหน ก็ใช้แรงงานในการเคลื่อนย้ายที่น้อยกว่า และยังประหยัดงบได้มากกว่าอีกด้วย