Dowel vs Spline เข้าไม้แบบไหนใช้ยังไง?
- Chawanat Channgam
- 5 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 1 วันที่ผ่านมา

Dowel vs Spline เข้าไม้แบบไหนใช้ยังไง? ในงานไม้ การเชื่อมต่อชิ้นงานให้แน่นหนา แข็งแรง และดูสวยงาม เป็นสิ่งสำคัญที่ช่างไม้ทุกคนต้องให้ความใส่ใจ เทคนิคการเชื่อมต่อไม้นั้นก็มีหลากหลายวิธี ซึ่งบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับสองเทคนิคยอดนิยมในการเชื่อมไม้ คือ Dowel และ Spline พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียและการใช้งานจริง
Dowel คืออะไร?

Dowel หรือที่รู้จักกันในภาษาไทยว่า “เดือยไม้” คือแท่งไม้กลมเล็ก ๆ ที่ใช้เสียบเข้าไปในรูที่เจาะไว้ตรงกันบนชิ้นไม้ทั้งสองด้าน เพื่อยึดไม้ให้ติดกัน

ประโยชน์ของการใช้ Dowel:
ให้ความแข็งแรงในการเชื่อมต่อไม้แบบไม่เห็นตะปู
ช่วยให้ชิ้นไม้จัดเรียงกันได้อย่างแม่นยำ
ใช้งานง่ายและรวดเร็วเมื่อมีเครื่องมือเจาะรูตรงจุด
ให้ผิวงานที่ดูเรียบร้อย ไม่เห็นหัวตะปูหรือสกรู

การใช้งาน:
งานเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้
งานประกอบไม้แนวเรียบ เช่น การต่อไม้หน้ากว้าง
ใช้ร่วมกับกาวไม้เพื่อเสริมความแข็งแรง
Spline คืออะไร?

Spline หรือ “ลิ้นไม้” คือแผ่นไม้บาง ๆ ที่ใช้เสียบเข้าไปในร่องที่เซาะไว้ตรงขอบไม้ทั้งสองแผ่น เพื่อยึดไม้ให้ติดกัน

ประโยชน์ของการใช้ Spline:
เพิ่มพื้นที่สัมผัสระหว่างกาวและเนื้อไม้ ทำให้ยึดแน่นขึ้น
ช่วยปรับแนวไม้ให้ตรงกัน
เหมาะกับการต่อไม้แนวราบ เช่น การต่อไม้แผ่นให้ยาวขึ้นหรือกว้างขึ้น
มีความยืดหยุ่นในการใช้ไม้ชนิดต่าง ๆ เป็น spline เช่น MDF, ไม้อัด, หรือไม้จริง

การใช้งาน:
การต่อไม้แบบ edge-to-edge หรือ butt joint
งานกล่อง งานกรอบรูป ที่ต้องการความเรียบร้อยและแข็งแรง
ใช้ในงานที่ต้องการเสริมแรงโดยไม่เห็นการเชื่อมต่อจากภายนอก

เรามาดูกันแบบชัดๆ ว่า Dowel กับ Spline แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับงานของคุณ

1. รูปแบบและโครงสร้าง
Dowel: เป็นแท่งไม้กลมเล็ก ๆ (มักมีขนาด 6–12 มม.) ใช้เจาะรูให้ตรงกันบนชิ้นไม้ทั้งสองด้าน แล้วเสียบเดือยเข้าไปเพื่อยึดไม้
Spline: เป็นแผ่นไม้บาง รูปสี่เหลี่ยมแบน ใช้เซาะร่องตรงขอบไม้ทั้งสองด้าน แล้วเสียบแผ่นลิ้นไม้เข้าไประหว่างร่อง
✅ Dowel เหมาะกับการเชื่อมมุมหรือพื้นผิวที่ต้องการความแม่นยำ
✅ Spline เหมาะกับการเชื่อมขอบไม้เรียบต่อกัน เช่น การต่อไม้หน้ากว้าง

2. ความแข็งแรง
Dowel: แข็งแรงในแนวแกน แต่พื้นที่สัมผัสของกาวน้อยกว่า Spline
Spline: ให้ความแข็งแรงมากกว่า เนื่องจากมีพื้นที่สัมผัสของกาวมากขึ้น ทำให้เหมาะกับการรับแรงในแนวกว้าง

3. ความง่ายในการทำงาน
Dowel: เจาะรูสองด้านให้ตรงกัน ต้องใช้ jig หรือความแม่นยำสูง
Spline: ต้องใช้เครื่องเซาะร่อง เช่น table saw หรือ router
ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่มี หากมี jig สำหรับ dowel ก็ทำงานง่าย แต่ถ้ามีโต๊ะเลื่อยหรือเราเตอร์ Spline จะรวดเร็วกว่า

4. ความเรียบร้อยของชิ้นงาน
ทั้งสองวิธีสามารถซ่อนรอยต่อได้ดี ไม่เห็นหัวตะปูหรือสกรู
Dowel มักใช้ในเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ที่ต้องการความเรียบร้อย
Spline ทำให้แนวต่อไม้ตรงเรียบ ไม่มีการโก่งหรือเบี้ยว

ทั้ง Dowel และ Splines เป็นเทคนิคที่มีประโยชน์ในการเชื่อมไม้ โดยแต่ละวิธีมีความเหมาะสมกับประเภทของงานที่ต่างกัน Dowel เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วและแม่นยำ ส่วน Splines เหมาะกับงานที่ต้องการความแข็งแรงสูงและมีพื้นผิวเรียบร้อย หากคุณเป็นช่างไม้หรือชอบงาน DIY การเข้าใจความแตกต่างและเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสม จะช่วยให้งานของคุณมีคุณภาพและดูมืออาชีพยิ่งขึ้น